นักวิทยาศาสตร์กังวลเกี่ยวกับการค้นพบนี้ในธารน้ำแข็งของอลาสก้า

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเพอร์มาฟรอสต์

ตามที่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เพอร์มาฟรอสต์ ส่งผลกระทบต่อซีกโลกเหนือประมาณ 25% ประกอบด้วยสสารต่างๆ เช่น กรวด ทราย และดิน ดินเพอร์มาฟรอสต์มักจะเกิดขึ้นเมื่อพื้นดินยังคงอยู่ในอุณหภูมิที่เยือกแข็งเป็นเวลานานกว่าสองปี เพอร์มาฟรอสต์ไม่เพียงแค่ปรากฏบนบกเท่านั้น แต่ยังสามารถพบได้ในใต้มหาสมุทรของโลกเราได้อีกด้วย นี่เป็นจุดที่สามารถสร้างความเสียหายได้มากที่สุด

อย่างที่คุณคาดไว้ ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยในภูมิภาคที่อุณหภูมิไม่เกิน 0°C เพอร์มาฟรอสต์มักพบในยุโรปตะวันออก รัสเซีย จีน กรีนแลนด์ และอาลาสก้า แม้ว่าส่วนที่เป็นน้ำแข็งเหล่านี้อาจค่อนข้างตื้นในบางพื้นที่ แต่ก็สามารถขยายออกไปได้มากกว่า 900 เมตร และยิ่งหากเป็นชั้นเยือกแข็งที่ใหญ่ ระเบิดเวลาด้านล่างก็ยิ่งใหญ่ขึ้น

ห่วงโซ่ของเหตุการณ์ภัยพิบัติ

สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในแถบอาร์กติก ดินเยือกแข็งถาวรถือเป็นความท้าทาย การสร้างโครงสร้างในเขตทุนดราอาจเป็นเรื่องยาก และบางครั้งความร้อนจากการก่อสร้างทำให้พื้นดินละลาย แต่มนุษย์ได้ปรับตัวเข้ากับเงื่อนไขเหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไป และปัจจุบันเมืองทั้งเมืองก็มาตั้งอยู่ในมุมที่หนาวที่สุดของโลก

เมื่ออุโมงค์แฟร์แบงค์ถูกขุดขึ้นครั้งแรก พื้นผิวเยือกแข็งก็เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยจากเวลาหลายร้อยปี ขณะที่อุณหภูมิทั่วโลกสูงขึ้น พื้นดินที่เยือกแข็งใต้อาร์กติกก็ร้อนขึ้น และเมื่อพื้นที่เหล่านั้นเริ่มละลาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะตามมาได้